เมนู

วัตถุมีพวงดอกไม้ของหอมและผ้าเป็นต้น เป็นของอันเศรษฐีจัดแล้ว
แก่ชนทั้งหมด ตั้งแต่พระราชาแล. ชนเหล่านั้นคิดกันว่า "เศรษฐี
ทำสักการะแก่พวกเราถ่ายเดียว 3 เดือนล่วงไปแล้ว โดยอาการอย่างนี้.
ส่วนเครื่องประดับ ก็ยังไม่เสร็จก่อน. ผู้ควบคุมงานมาแจ้งแก่เศรษฐีว่า
" สิ่งอื่นที่ชื่อว่าไม่มี ก็หาไม่, แต่ฟืนสำหรับหุงต้มภัตเพื่อหมู่พล ไม่พอ."
เศรษฐี กล่าวว่า "ไปเถิดพ่อทั้งหลาย. พวกท่านจง (รื้อ) ขนเอา
โรงช้างเก่า ๆ เป็นต้นและเรือนเก่าในนครนี้หุงต้มเถิด."
แม้เมื่อหุงต้มอยู่อย่างนั้น, กึ่งเดือนล่วงไปแล้ว. ลำดับนั้น ผู้
ควบคุมงาน มาแจ้งแก่ท่านเศรษฐีอีกครั้งว่า "ฟืนไม่มี." เศรษฐีกล่าวว่า
" ใคร ๆ ไม่อาจได้ฟืนในเวลานี้, พวกท่าน จงเปิดเรือนคลังผ้าทั้งหลาย
แล้วเอาผ้าเนื้อหยาบ ทำเกลียวชุบลงในตุ่มน้ำมันหุงภัตเถิด." ชนเหล่านั้น
ได้ทำอย่างนั้น ตลอดกึ่งเดือน. 4 เดือนล่วงไปแล้วโดยอาการอย่างนี้.
แม้เครื่องประดับก็เสร็จแล้ว.

เครื่องประกอบในมหาลดาปสาธน์


เพชร 4 ทะนาน ได้ถึงอันประกอบเข้าในเครื่องประดับนั้น,
แก้วมุกดา 11 ทะนาน, แก้วประพาฬ 20 ทะนาน. แก้วมณี 33
ทะนาน. เครื่องประดับนั้น ได้ถึงความสำเร็จ ด้วยรัตนะเหล่านี้และ
เหล่าอื่น ด้วยประการฉะนี้. เครื่องประดับไม่สำเร็จด้วยด้าย, การงานที่
ทำด้วยด้าย เขาทำแล้วด้วยเงิน. เครื่องประดับนั้น สวมที่ศีรษะแล้ว
ย่อมจดหลังเท้า.
ลูกดุมที่เขาประกอบทำเป็นแหวนในที่นั้น ๆ ทำด้วยทอง, ห่วง

ทำด้วยเงิน, แหวนวงหนึ่ง ที่ท่ามกลางกระหม่อม, หลังหูทั้งสอง 2 วง,
ที่หลุมคอ 1 วง, ที่เข่าทั้งสอง 2 วง, ที่ข้อศอกทั้งสอง 2 วง, ที่ข้าง
สะเอวทั้งสอง 2 วง ดังนี้. ก็ในเครื่องประดับนั้นแล เขาทำนกยูงตัวหนึ่งไว้.
ขนปีกทำด้วยทอง 500 ขน ได้มีที่ปีกเบื้องขวาแห่งนกยูงนั้น, 500 ขน
ได้มีที่ปีกเบื้องซ้าย, จะงอยปาก ทำด้วยแก้วประพาฬ, นัยน์ตาทำด้วย
แก้วมณี, คอและแววหางก็เหมือนกัน, ก้านขนทำด้วยเงิน, ขาก็เหมือน
กัน. นกยูงนั้น สถิตอยู่ท่ามกลางกระหม่อมแห่งนางวิสาขา ปรากฏ
ประหนึ่งนกยูงยืนรำแพนอยู่บนยอดเขา. เสียงแห่งก้านขนปีกพันหนึ่ง
เป็นไปประหนึ่งทิพยสังคีต และประหนึ่งเสียงกึกก้องแห่งดนตรีประกอบ
ด้วยองค์ 5. ชนทั้งหลายผู้เข้าไปสู่ที่ใกล้เท่านั้น ย่อมทราบว่า นกยูง
นั้นไม่ใช่นกยูง (จริง ). เครื่องประดับมีค่า 9 โกฎิ. ท่านเศรษฐีให้ค่า
หัตถกรรม (ค่าบำเหน็จ) แสนหนึ่ง.

หญิงถวายจีวรย่อมได้มหาลดาปสาธน์


ถามว่า " ก็เครื่องประดับนั่น อันนางวิสาขานั้นได้แล้ว เพราะ
ผลแห่งกรรมอะไร ?"
แก้ว่า "ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า นาง
ถวายจีวรสาฎก แก่ภิกษุ 2 หมื่นรูปแล้ว ได้ถวายด้ายบ้าง เข็มบ้าง
เครื่องย้อมบ้าง ซึ่งเป็นของตนนั่นเอง นางได้แล้วซึ่งเครื่องประดับนี้
เพราะผลแห่งจีวรทานนั้น. ก็จีวรทานของหญิงทั้งหลาย ย่อมถึงที่สุดด้วย
เครื่องประดับชื่อมหาลดาปสาธน์, จีวรทานของบุรุษทั้งหลาย ย่อมถึงที่สุด
ด้วยบาตรและจีวรอันสำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์."